เมนู

10. ตติยอัสสสูตร



ว่าด้วยม้าอาชาไนย และบุรุษอาชาไนย 3 จำพวก



[582] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงม้าอาชาไนยตัวประเสริฐ 3
และคนอาชาไนยผู้ประเสริฐ 3 ท่านทั้งหลายจงพึง จงทำในใจให้ดี เราจักกล่าว
ภิกษุทั้งหลาย รับสนองพระพุทธดำรัสแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัส
ขยายความต่อไปว่า ม้าอาชาไนยตัวประเสริฐ 3 เป็นอย่างไร ? คือม้าอาชาไนย
ตัวประเสริฐลางตัว ฝีเท้าดี แต่สีไม่งาม ทรวดทรงไม่งาม ลางตัวฝีเท้าดี
สีก็งาม แต่ทรวดทรงไม่งาม ลางตัวฝีเท้าก็ดี สีก็งาม ทรวดทรงก็งาม นี่ม้า
อาชาไนยตัวประเสริฐ 3 จำพวก
คนอาชาไนยผู้ประเสริฐ 3 เป็นอย่างไร คือคนอาชาไนยผู้ประเสริฐ
ลางคนมีเชาวน์ดี แต่สีไม่งาม ทรวดทรงไม่งาม ลางคนมีเชาวน์ดี สีก็งาม
แต่ทรวดทรงไม่งาม ลางคนมีเชาวน์ก็ดี สีก็งาม ทรวดทรงก็งาม
คนอาชาไนยผู้ประเสริฐ มีเชาวน์ดี แต่สีไม่งาม ทรวดทรงไม่งาม
เป็นอย่างไร ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ เพราะสิ้นอาสวะทั้งหลายกระทำให้
แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติอันหาอาสวะมิได้ ด้วยปัญญาอันยิ่งด้วยตนเอง
สำเร็จอยู่ในปัจจุบันนี้ เรากล่าวความกระทำให้แจ้งซึ่งวิมุตติ (คือเป็นพระ-
อรหันต์) นี้ ในความมีเชาวน์ดีของเธอ แต่ภิกษุนั้นถูกถามปัญหาในอภิธรรม
อภิวินัยแล้วจนปัญญาแก้ปัญหาไม่ได้ ฯลฯ นี้แล ภิกษุทั้งหลาย คนอาชาไนย
ผู้ประเสริฐ 3 จำพวก.
จบตติยอัสสสูตรที่ 10

อรรถกถาตติยอัสสสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในตติยอัสสสูตรที่ 10 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า ภเทฺร ได้แก่ ม้าอาชาไนยตัวเจริญ. ม้าตัวที่รู้เหตุที่ควร และ
ไม่ควร ชื่อว่า ม้าอาชาไนย ถึงในบุรุษผู้อาชาไนย ก็มีนัยนี้เหมือนกัน.
ในพระสูตรนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัส อรหัตผลไว้. บรรดาคน 3 ประเภท
นั้น บุรุษอาชาไนยนี้ พึงทราบว่า เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยเชาว์ คือญาณ เพราะ
พระอรหัตมรรค.
จบอรรถกถาตติยอัสสสูตรที่ 10

11. ปฐมโมรนิวาปสูตร



ว่าด้วยขันธ์ 3



[583] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับ ณ โมรนิวาปสถาน
(ที่เลี้ยงนกยูง) อันเป็นอารามของปริพาชก ใกล้พระนครราชคฤห์ ฯลฯ
ตรัสพระธรรมเทศนาว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม 3
ประการ เป็นผู้สำเร็จถึงที่สุด ปลอดโปร่งจากเครื่องผูกมัดเสมอไป เป็นพรหม-
จารีเต็มที่ จบกรณียกิจสิ้น เป็นผู้ประเสริฐแห่งเทวดามนุษย์ทั้งหลาย ธรรม
3 ประการคืออะไรบ้าง คือ ศีลขันธ์เป็นอเสขะ สมาธิขันธ์เป็นอเสขะ
ปัญญาขันธ์เป็นอเสขะ
ภิกษุประกอบด้วยธรรม 3 ประการนี้แล เป็นผู้สำเร็จ
ถึงที่สุด ฯลฯ เป็นผู้ประเสริฐแห่งเทวดามนุษย์ทั้งหลาย.
จบปฐมโมรนิวาปสูตรที่ 11